วิธีการตัดชิมหลากหลายวิธี
ในการใช้งานแผ่น Shim โลหะ นั้น จำเป้นต้องมีการตัด ให้ได้รูปร่างตามที่ต้องการใช้งานก่อนนำไปใช้งานอยู่เสมอ
มีวิธีการตัดชิมด้วยวิธีอื่น นอกจากการตัดด้วย Manual หรือ กรรไกรตัด Shim อยู่อีก 4 วิธีดังนี้
เมื่อคุณต้องการตัด Shim ใดๆ ก็ตามคุณควรเลือกวิธีการตัดให้เหมาะสมกับรูปร่าง , จำนวน และข้อดี ข้อเสีย ของวิธีการตัด ที่จะอธิบายต่อไปนี้
1) การใช้เครื่อง CNC มิลลิ่งตัด (CNC Milling Machine)
เป็นการกัดแผ่น Shim ด้วยดอก Milling เอาส่วนที่ไม่ต้องการออก เหลือเป็นรูปร่างที่ต้องการไว้ รูปร่างที่ต้องการ ต้องเขียนแบบใส่ Program เพื่อให้เครื่อง CNC ทำการเคลื่อนดอก Milling หมุนและวิ่งกัดเอาโลหะออกให้ได้ตามรูปร่าง
ข้อดี
- ได้ความละเอียดสูง ผลงานออกมาดี สม่ำเสมอ
- กัดเป็นรูปร่างอะไรก็ได้ ไม่จำกัด แต่ส่วนใหญ่จะกัด Shim เป็นทรงเรขาคณิต
ข้อเสีย
- ลงทุนเครื่องจักรสูง
- ต้องเป็นการผลิตครั้งละมากๆ ต้องมีจำนวนจึงจะคุ้มค่ากับวิธีนี้
- มีเศษเล็ก เศษน้อยจากการกัดของดอก milling
2) การใช้เครื่องปั๊มโลหะแผ่น (Punching Machine)
ในการใช้เครื่องปั๊มโลหะแผ่นเพื่อตัด Shims จำเป็นต้องมีแม่พิมพ์ หรือภาษาช่างเรียกว่า ‘DIE’ ที่มักจะมีทั้ง Die ตัวผู้ และ Die ตัวเมีย ซึ่งเมื่อมีการปั๊มตัดแผ่นโลหะ ในลักษณะเดียวกับการตัดเจาะรูกระดาษด้วย เครื่องเจาะรูกระดาษ เพื่อเก็บเข้าแฟ้ม จะได้แผ่นรูปร่าง ตามที่ต้องการ
ข้อดี
- ได้งานค่อนข้างรวดเร็ว
- ทำซ้ำๆได้ โดยรูปร่างไม่เปลี่ยน
- ประหยัดพลังงานกว่าวิธีอื่น
ข้อเสีย
- จำกัดรูปร่างขึ้นอยู่กับว่าจะสร้าง die ให้สอดคล้องกับรูปร่าง Shim ได้หรือไม่
- ใช้เวลาตอนเปลี่ยน die ต้องตั้งเครื่องใหม่
เป็นวิธีการตัดแผ่นโลหะ โดยใช้ความร้อน ให้ได้รูปร่างตามที่ออกแบบ รูปร่างการตัด เจาะ สามารถออกแบบได้ หลากหลายกว่าแบบ ปั๊ม Punching
ข้อดี
- ตัดวัสดุได้หลายชนิดจากเครื่องเดียวกัน
- ตัดรูปร่างได้หลากหลาย และสามารถรวมอยู่ในแผ่นโลหะแผ่นเดียวได้
- ตัดชิ้นส่วนเล็กๆได้ดี เพราะตัดได้ด้วยความละเอียดสูงมาก
- ทำงานได้เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีอื่น
- ปรับขนาดรูปร่าง Shim ได้สะดวก (เพราะไม่ต้องสร้าง die ใหม่)
ข้อเสีย
- ลงทุนเครื่องจักรแพงมาก
- มีผลกระทบเรื่องฝุ่น ควัน ต้องมีมาตรการความปลอดภัยมากำกับดูแล (Health and Safety requirements)
- ใช้พลังงาน(ไฟฟ้า) สูง
- ต้องใช้ Shielding Gas เช่น Co2 หรือ Argon เพื่อควบคุมเปลวไฟตัด ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก
- มีความร้อนเกิดขึ้นในกระบวนการ ทำให้วัสดุแผ่นอาจโค้งงอเสียรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลหะแผ่นบางๆ
เป็นการตัดโลหะแผ่นด้วยการให้น้ำผสมผงขัด วิ่งผ่านหัวฉีด เพื่อให้มีความเร็วสูง พุ่งออกไปด้วยความดันสูง ทำให้สามารถตัดแผ่นโลหะ ออกได้ตามรูปร่างที่ต้องการ อีกทั้งมีความคมชัดในรายละเอียดอีกด้วย ผงขัดสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ในการตัดแบบนี้จะสิ้นเปลืองเนื้อโลหะน้อยมาก เมื่อเทียบกับวิธีอื่น
ข้อดี
- ตัดวัสดุได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุที่โดนความร้อนแล้วจะเสียรูป
- ตัดได้รูปร่างและรายละเอียดที่ต้องการ
- ในเมื่อไม่ใช้ความร้อนในการตัด ทำให้โลหะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของวัสดุ
ข้อเสีย
- เปลืองเวลาในการตัดมาก (ช้าที่สุด)
- หัวฉีดมักจะเสียหาย ระหว่างการตัด และทำให้ Production ติดขัด
- ลงทุนสูงมาก ทั้งตัวเครื่อง และผงขัด abrasive
- จำกัดความหนา หนามากตัดแล้วรูปร่างเพี้ยน
ขอบคุณที่อ่านบทความนี้